ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วย เจ้าคุณพระ พระราชทานเครื่องมือทางการแพทย์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข
วันที่ 28 เมษายน 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการ พร้อมคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นำนพงเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กราบบังคมทูลรายงานการเริ่มดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ในโรงพยาบาลแม่ข่าย และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ในเรือนจำ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 118,547,200 บาท แบ่งเป็นสำหรับโรงพยาบาลแม่ข่าย จำนวน 102,691,400 บาท และสำหรับเรือนจำ จำนวน 15,855,800 บาท ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนทั่วไปและผู้ต้องขังในเขตพื้นที่อำเภอนั้น ๆ
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ข่าย พยาบาลประจำเรือนจำ และอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำของเรือนจำอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เรือนจำอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เรือนจำอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ และเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำ 4 แห่ง จากทั้งหมด 19 แห่งของเรือนจำเป้าหมายในการดำเนินงานระยะที่ 2 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปทอดพระเนตรนิทรรศการเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2 ผลการดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ระยะที่ 2
ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 1 สามารถช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง ให้มีสุขภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนโครงการฯ ระยะที่ 2 จะดำเนินการในเรือนจำอำเภอ จำนวน 19 แห่ง ซึ่งเป็นเรือนจำขนาดเล็ก อยู่ห่างไกล ติดชายแดน เรือนจำบางแห่งมีอายุการใช้งานมานาน โดยนอกจากจะเน้นการดำเนินงานเช่นเดิมตามระยะที่ 1 แล้ว ยังเพิ่มในมิติของการบริหารจัดการโรคติดต่อ โดยเฉพาะการกักโรค การส่งเสริมเรื่องสุขาภิบาลเรือนจำ และอนามัยสิ่งแวดล้อม การบำบัดน้ำเสีย การกำจัดขยะ และโภชนาการ
ซึ่งระหว่างการดำเนินงาน ระยะที่ 1 ได้พบปัญหาดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการเพิ่มเติม ระยะที่ 2 ซึ่งเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง จะน้อมนำไปดำเนินการ โดยแนวพระราชดำริดังกล่าวยังสอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ของประเทศไทยในปัจจุบัน รวมทั้งการที่พบว่า ผู้ต้องขังเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs จำนวนมาก ดังนั้น โภชนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขจะเข้ามาดำเนินการในโครงการเรือนจำอาหารปลอดภัยต้นแบบ ต่อไป
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากในการดำเนินชีวิตและประกอบสัมมาชีพแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย และได้พระราชทานพระบรมราโชบายในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
พร้อมทั้งพระราชทานเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงจัดสร้างรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ และรถเอกซเรย์ระบบดิจิทัล เพื่อใช้ปฏิบัติงานเชิงรุกในภาคสนามในการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายมาโดยตลอด โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
นับเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานความช่วยเหลือ ทั้งแก่ผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุข โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 และพระราชทานพระราชดำริว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์
จึงได้พระราชทานแนวพระราชดำริการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งการดำเนินงานของโครงการฯ เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและสอดคล้องกับข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับงานราชทัณฑ์ ข้อกำหนดแมนเดลา และข้อกำหนดกรุงเทพฯ ที่เป็นข้อกำหนดของสหประชาชาติ
การดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 1 ได้เริ่มดำเนินการในทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเรือนจำกลาง หรือทัณฑสถานซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่รวม 25 แห่ง โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 190,072,863 บาท
การดำเนินงานที่ผ่านมาได้ผลเป็นอย่างดี ส่งผลให้เรือนจำทั่วประเทศ ที่เหลือ 118 แห่ง ดำเนินการตามแนวทางของโครงการฯ ในทุกมิติ และสำหรับโรงพยาบาลแม่ข่าย สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลทหาร ตำรวจ รวมทั้งจิตอาสาพระราชทานต่างเข้ามาสนับสนุนการตรวจรักษาในเรือนจำอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดผลในเชิงคุณภาพที่ชัดเจน คือ อัตราการเกิดโรคทางเดินหายใจและโรคผิวหนังลดลง อัตราการนำผู้ต้องขังไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกลดลง
รวมทั้งในปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เรือนจำทั่วประเทศ สามารถจัดให้มีห้องแรกรับ และห้องแยกโรคอย่างถาวร สำหรับรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กลับมาแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันนี้
การดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 จึงสะท้อนถึงน้ำพระราชหฤทัย และพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญในการให้ความช่วยเหลือพสกนิกรให้ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คนรัก พลตรีหญิง เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี
วันที่ 28 เมษายน 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการ พร้อมคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ นำนพงเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กราบบังคมทูลรายงานการเริ่มดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ในโรงพยาบาลแม่ข่าย และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ในเรือนจำ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 118,547,200 บาท แบ่งเป็นสำหรับโรงพยาบาลแม่ข่าย จำนวน 102,691,400 บาท และสำหรับเรือนจำ จำนวน 15,855,800 บาท ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนทั่วไปและผู้ต้องขังในเขตพื้นที่อำเภอนั้น ๆ
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ข่าย พยาบาลประจำเรือนจำ และอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำของเรือนจำอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เรือนจำอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เรือนจำอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ และเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำ 4 แห่ง จากทั้งหมด 19 แห่งของเรือนจำเป้าหมายในการดำเนินงานระยะที่ 2 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปทอดพระเนตรนิทรรศการเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2 ผลการดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ เครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ระยะที่ 2
ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 1 สามารถช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง ให้มีสุขภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนโครงการฯ ระยะที่ 2 จะดำเนินการในเรือนจำอำเภอ จำนวน 19 แห่ง ซึ่งเป็นเรือนจำขนาดเล็ก อยู่ห่างไกล ติดชายแดน เรือนจำบางแห่งมีอายุการใช้งานมานาน โดยนอกจากจะเน้นการดำเนินงานเช่นเดิมตามระยะที่ 1 แล้ว ยังเพิ่มในมิติของการบริหารจัดการโรคติดต่อ โดยเฉพาะการกักโรค การส่งเสริมเรื่องสุขาภิบาลเรือนจำ และอนามัยสิ่งแวดล้อม การบำบัดน้ำเสีย การกำจัดขยะ และโภชนาการ
ซึ่งระหว่างการดำเนินงาน ระยะที่ 1 ได้พบปัญหาดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการเพิ่มเติม ระยะที่ 2 ซึ่งเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง จะน้อมนำไปดำเนินการ โดยแนวพระราชดำริดังกล่าวยังสอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ของประเทศไทยในปัจจุบัน รวมทั้งการที่พบว่า ผู้ต้องขังเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs จำนวนมาก ดังนั้น โภชนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขจะเข้ามาดำเนินการในโครงการเรือนจำอาหารปลอดภัยต้นแบบ ต่อไป
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากในการดำเนินชีวิตและประกอบสัมมาชีพแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย และได้พระราชทานพระบรมราโชบายในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
พร้อมทั้งพระราชทานเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงจัดสร้างรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ และรถเอกซเรย์ระบบดิจิทัล เพื่อใช้ปฏิบัติงานเชิงรุกในภาคสนามในการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายมาโดยตลอด โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
นับเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานความช่วยเหลือ ทั้งแก่ผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุข โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 และพระราชทานพระราชดำริว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์
จึงได้พระราชทานแนวพระราชดำริการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งการดำเนินงานของโครงการฯ เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและสอดคล้องกับข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับงานราชทัณฑ์ ข้อกำหนดแมนเดลา และข้อกำหนดกรุงเทพฯ ที่เป็นข้อกำหนดของสหประชาชาติ
การดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 1 ได้เริ่มดำเนินการในทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเรือนจำกลาง หรือทัณฑสถานซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่รวม 25 แห่ง โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 190,072,863 บาท
การดำเนินงานที่ผ่านมาได้ผลเป็นอย่างดี ส่งผลให้เรือนจำทั่วประเทศ ที่เหลือ 118 แห่ง ดำเนินการตามแนวทางของโครงการฯ ในทุกมิติ และสำหรับโรงพยาบาลแม่ข่าย สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลทหาร ตำรวจ รวมทั้งจิตอาสาพระราชทานต่างเข้ามาสนับสนุนการตรวจรักษาในเรือนจำอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดผลในเชิงคุณภาพที่ชัดเจน คือ อัตราการเกิดโรคทางเดินหายใจและโรคผิวหนังลดลง อัตราการนำผู้ต้องขังไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกลดลง
รวมทั้งในปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เรือนจำทั่วประเทศ สามารถจัดให้มีห้องแรกรับ และห้องแยกโรคอย่างถาวร สำหรับรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กลับมาแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันนี้
การดำเนินงานโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 จึงสะท้อนถึงน้ำพระราชหฤทัย และพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญในการให้ความช่วยเหลือพสกนิกรให้ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คนรัก พลตรีหญิง เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี