ข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐

The Coronation of King Rama X

ในหลวง ทรงเปิดพระราชหฤทัย เป็นธรรมดาของทุกคน ที่จะเหนื่อย ท้อ หรือเสียใจ

          ในหลวง ทรงเปิดพระราชหฤทัย ตรัสว่า เป็นธรรมดาของทุกคนที่จะเหนื่อย ท้อ หรือเสียใจ แต่ต้องไม่ปล่อยให้ฉุดรั้งให้หยุดทำสิ่งดี ๆ เพื่อชาติบ้านเมือง


ในหลวง
ภาพจาก Thairoyalfamily

          วันที่ 13 ธันวาคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก จิตอาสาพระราชทาน เปิดเผยว่า วานนี้ (12 ธันวาคม) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานในกิจกรรมอบรมผู้นำเยาวชนจิตอาสา ณ โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน กรมทหารมหาดเล็กที่ 11 รักษาพระองค์ ทรงมีพระราชกระแสสอนเยาวชนและมีพระราชปฏิสันถารกับเยาวชนจิตอาสาอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง ด้วยความเรียบง่าย

          ช่วงหนึ่ง มีน้องเยาวชนซึ่งเป็นชาวม้ง บอกกับในหลวงแบบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ว่า "หนูได้ยินคนพูดว่าเมื่อ ร.9 สวรรคต ม้งจะไม่มีที่อยู่ ร.10 จะให้ม้งออกไปจากประเทศให้หมด หนูกลัวมาก กลัวว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่ กลัวว่าจะไม่มีที่ไป ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่หลายปีผ่านไป ร.10 ก็ไม่เคยไล่ พวกเราทุกคนสบายดี แล้วในหลวงก็ยังให้หนูเรียนหนังสือด้วย"

          ในหลวง ตรัสว่า "ในแผ่นดินนี้ ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด เราทุกคนคือคนไทย ประเทศเราไม่เหมือนชาติอื่นใดในโลก เรารักกัน เราช่วยเหลือเอื้อเฟื้อแบ่งปันกัน และในหลวงจะไม่มีวันทิ้งคนไทย พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทำทุกอย่างเพื่อคนไทย ขออย่าได้กังวล"

ในหลวง
ภาพจาก Thairoyalfamily

          จากนั้นมีน้องอีกคนทูลถามในหลวงว่า "ได้มาทราบถึงงานที่ในหลวงทำ แต่กลับมีข่าวไม่ดี ข่าวโกหกเรื่องในหลวงมากมาย แล้วพระองค์ทรงท้อบ้างหรือไม่"  

          ในหลวงทรงแย้มพระสรวล ตรัสตอบด้วยพระสุรเสียงเรียบรื่นแต่หนักแน่นว่า เป็นเรื่องธรรมดาของทุกคนที่จะเหนื่อย หรือท้อ หรือเสียใจ แต่เราต้องไม่ปล่อยให้ความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ฉุดรั้งให้เราหยุดทำงาน หยุดทำหน้าที่ หรือหยุดทำสิ่งดี ๆ เพื่อชาติบ้านเมือง

          ต่อมา เมื่อน้องคนหนึ่งถามในหลวงว่า มีอะไรที่ทรงอยากจะบอกกับพวกเรา (เยาวชน) บ้าง ในหลวงตรัสว่า ต้องรู้และเข้าใจให้ถ่องแท้ ค้นหาความจริง อย่างประวัติศาสตร์ก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ที่พูดถึงประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์ (ทรงพระสรวล) แต่เรื่องราวต่าง ๆ ที่ร้อยเรียงกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนรู้และเข้าใจ ถอดบทเรียนว่าเราได้เรียนรู้อะไร พร้อมทรงยกตัวอย่างว่า

          "ตอนนี้เราพูดอยู่ (ทรงวางไมค์ลง) เราวางไมค์แล้วสิ่งที่เราพูดไปก็เป็นอดีต (ทรงหยิบไมค์ขึ้นแล้วตรัสว่า) เราหยิบไมค์ขึ้นพูดใหม่ตอนนี้ที่เราพูดก็เป็นเรื่องของตอนนี้ (ทรงพระสรวลเป็นกันเองด้วยความเมตตา) เข้าใจใช่มั้ย บางที อดีตหรือไม่อดีต หรือตอนนี้ มันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่เราพูดบ้าง ขอให้ลองไปประยุกต์ใช้ดู จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเยาวชน"

ในหลวง
ภาพจาก Thairoyalfamily

ในหลวง
ภาพจาก Thairoyalfamily

ในหลวง

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก จิตอาสาพระราชทาน

TOP