ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 345 ล้านบาท แก่ เรือนจำ - รพ. 44 แห่ง
ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 345 ล้านบาท แก่เรือนจำและโรงพยาบาลเรือนจำ ทั่วประเทศ 44 แห่ง ในโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทรงห่วงใยประชาชน
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2
โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โดยทรงเห็นว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขัง ซึ่งก็คือประชาชนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ทรงเห็นว่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ การพยาบาล รวมไปถึงการได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง เป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่ควรได้รับ เท่าเทียมกับบุคคลภายนอกตามหลักมนุษยธรรม ข้อจำกัดในด้านการได้รับความรู้ด้านสุขอนามัย ตลอดจนการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของผู้ต้องขัง จึงมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาปรับปรุง จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ริเริ่มโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขึ้น เพื่อเป็นการเติมเต็มสิทธิของผู้ต้องขังให้ได้รับบริการทางสุขภาพเฉกเช่นประชาชนทั่วไป
โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในระยะที่ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 756 รายการ พระราชทานให้กับเรือนจำและทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วย
- เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง
- เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง
- ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง
- ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง
และในปลายปีนี้โครงการจะดำเนินงานครบเวลา 1 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 128 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการเข้าสู่ระยะที่ 2 สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ และผู้ต้องราชทัณฑ์ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ นับเป็นขวัญกำลังใจ และสิริมงคลของข้าราชการ ผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ต่างพร้อมน้อมรับพระบรมราโชบายใส่เกล้าใส่กระหม่อม นำไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเกิดสัมฤทธิผลต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2
โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โดยทรงเห็นว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขัง ซึ่งก็คือประชาชนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ทรงเห็นว่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ การพยาบาล รวมไปถึงการได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง เป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่ควรได้รับ เท่าเทียมกับบุคคลภายนอกตามหลักมนุษยธรรม ข้อจำกัดในด้านการได้รับความรู้ด้านสุขอนามัย ตลอดจนการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของผู้ต้องขัง จึงมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาปรับปรุง จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ริเริ่มโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขึ้น เพื่อเป็นการเติมเต็มสิทธิของผู้ต้องขังให้ได้รับบริการทางสุขภาพเฉกเช่นประชาชนทั่วไป
โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในระยะที่ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 756 รายการ พระราชทานให้กับเรือนจำและทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วย
- เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง
- เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง
- ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง
- ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง
และในปลายปีนี้โครงการจะดำเนินงานครบเวลา 1 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 128 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการเข้าสู่ระยะที่ 2 สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ และผู้ต้องราชทัณฑ์ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ นับเป็นขวัญกำลังใจ และสิริมงคลของข้าราชการ ผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ต่างพร้อมน้อมรับพระบรมราโชบายใส่เกล้าใส่กระหม่อม นำไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเกิดสัมฤทธิผลต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์