“ฝ่าพระบาท หม่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติและปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้รับรองฝ่าพระบาทและสมเด็จพระราชินี ในค่ำวันนี้ ในฐานะผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หวังว่าฝ่าพระบาทจะทรงได้รับความเกษมสำราญทุก ๆ ประการ ตลอดเวลาที่ประทับอยู่ในประเทศของเรา
สัมพันธไมตรีระหว่างมาเลเซียกับไทยที่มีมายาวนานฉันประเทศเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน เป็นที่ทราบกันแจ้งชัด จนไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงโดยรายละเอียด แต่หม่อมฉันไม่อาจเว้นที่จะกล่าวว่าการเสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยของฝ่าพระบาทครั้งนี้ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่ควรจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติทั้งสอง ด้วยเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับฝ่าพระบาทในฐานะสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียถึงสองครั้ง คนไทยเราระลึกอยู่เสมอว่ามีบุญวาสนาที่ได้รับเสด็จฝ่าพระบาทมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ ๔๐ ปีก่อน
การเสด็จเยือนในครั้งนี้ จึงทำให้คนไทยทั้งปวงเกิดความปีติยินดี ที่จะได้เฝ้าชมพระบารมีอีกวาระหนึ่ง ข้อนี้ย่อมเป็นประจักษ์พยานได้เป็นอย่างดี ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างต่อเนื่องระหว่างประเทศทั้งสอง และย่อมเป็นปัจจัยสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่จะเกื้อกูลส่งเสริมความสัมพันธ์ดังกล่าวให้ยิ่งมั่นคงและเจริญงอกงามต่อไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด
ในวาระอันประเสริฐนี้ หม่อมฉันภูมิใจที่จะกราบทูลอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ต้อนรับฝ่าพระบาทและสมเด็จพระราชินีในคราวนี้ ทรงเสียดายที่ไม่อาจจะเสด็จมารับรองในค่ำวันนี้ด้วยพระองค์เอง จึงส่งพระราชปรารถนาดีมาถวายพระพรแด่ฝ่าพระบาท ให้ทรงพระเกษมสุขและทรงพระเจริญไพบูลย์ พร้อมทั้งอำนวยพร แก่ประเทศและประชาชนชาวมาเลเซีย ให้มีความรุ่งเรืองวัฒนาเป็นผาสุกยิ่งยืนนานตลอดไป”